สูตรผสมน้ำหอมที่ควรใช้
สูตร A
อัตตราส่วน = 1 : 3
หัวน้ำหอม : แอลกอฮอล์
30 : 90 = 120 ซีซี ผลลัพธ์ =
ดี
สรุป ต้นทุนการผลิต ต่อ หน่วย ซีซีละ 0.84
ส.ต.
ราคาขายปลีกทั่วไปตาม ตลาดนัดเปิดท้าย อยู่ที่
cc ละ 2 - 3 บาท
สูตร B
อัตตราส่วน = 1 : 4
หัวน้ำหอม : แอลกอฮอล์
30 : 120 = 150 ซีซี ผลลัพธ์ =
พอใช้
ต้นทุนการผลิต ต่อ หน่วย ซีซีละ 0.72 ส.ต.
ราคาขายปลีกทั่วไปตาม ตลาดนัดเปิดท้าย อยู่ที่
cc ละ 1.50 - 2.50 บาท
สูตร C
อัตตราส่วน = 1 : 5
หัวน้ำหอม : แอลกอฮอล์
30 : 150 = 180 ซีซี ผลลัพธ์ = เริ่มไม่ดี
ต้นทุนการผลิต ต่อ หน่วย ซีซีละ 0.64 ส.ต.
ราคาขายปลีกทั่วไปตาม ตลาดนัดเปิดท้าย อยู่ที่
cc ละ 1.50 - 2 บาท
สูตร D
อัตตราส่วน = 1 : 6
หัวน้ำหอม : แอลกอฮอล์
30 : 180 = 210 ซีซี ผลลัพธ์ = เริ่มไม่ดี
มากขึ้น ตามอัตตราส่วน
ต้นทุนการผลิต ต่อ หน่วย ซีซีละ 0.58 ส.ต.
ราคาขายปลีกทั่วไปตาม ตลาดนัดเปิดท้าย อยู่ที่
cc ละ 1 - 1.50 บาท
การผสมสูตรต่างๆ พิจารณาตามกำลังซื้อ
ของพื้นที่ขายแต่พื้นที่นะครับ
เหตุเนื่องจากกำลังซื้อไม่เท่ากัน
แบบทดลอง การผสมน้ำหอมสูตรต่างๆ
เสมือนจริง
เพื่อลดอัตตรา การเสี่ยง ในการทำธุรกิจ
คลิกที่นี่เลยคะ
วิธีการผสมน้ำหอมสูตรต่างๆ
(
คลิกที่นี่สำหรับดาวโหลดข้อมูล
)
(
คลิกที่นี่สำหรับ print
)
วิธีการสกัดน้ำมันหอมระเหย
สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
1
.การกลั่นโดยใช้น้ำและไอ้น้ำ
วิธีนี้ใช้อุปกรณ์สำหรับกลั่นประกอบด้วย
หม้อกลั่น เครื่องควบแน่น
และภาชนะรองรับน้ำมัน
หลักการของวิธีนี้คือให้ไอน้ำเป็นตัวพาน้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในเนื้อเยื่อพืชออกมาพร้อมกัน
เมื่อผ่านเครื่องควบแน่น
ไอน้ำและไอของน้ำมันหอมระเหยจะควบแน่นเป็นของเหลว
ได้น้ำมันหอมระเหย และน้ำแยกชั้นกัน
หลังจากนั้นจึงแยกน้ำมันหอมระเหยออกจากน้ำ
วิธีการนี้ทำได้หลายแบบ คือ
อาจต้มพืชที่จะสกัดน้ำมันหอมระเหยกับน้ำเลย
พอน้ำเดือดก็จะพาน้ำมันหอมระเหยออกมาด้วย
หรืออาจจะต้มน้ำอีกภาชนะหนึ่งแล้วผ่านไอน้ำมายังภาชนะที่บรรจุพืชไว้
ไอน้ำก็จะพาน้ำมันหอมระเหยออกมา
ซึ่งสองวิธีการนี้
วิธีการหลังพืชไม่สัมผัสกับความร้อนโดยตรง
ทำให้น้ำมันหอมระเหยมีคุณภาพดีกว่าวิธีการแรก
2
.การสกัดโดยใช้ตัวทำละลาย
การสกัด น้ำมันหอมระเหย
ที่ไม่สามารถใช้วิธีการกลั่นโดยใช้ไอน้ำได้เนื่องจากองค์ประกอบของสารหอมระเหยในดอกไม้จะสลายตัวเมื่อถูกความร้อนสูง
ดังนั้นจึงใช้ตัวทำละลาย เช่น เฮเซน
สกัดน้ำมันหอมระเหยออก
หลังจากนั้นระเหยไล่ตัวทำละลายออกที่อุณหภูมิและความกดดันต่ำ
ก็จะได้น้ำมันหอมระเหยออกมา
3
.การสกัดโดยใช้ไขมัน
การสกัดโดยวิธีนี้เป็นวิธีการสกัดแบบดั้งเดิม
มักใช้กับดอกไม้กลีบบาง เช่น มะลิ ซ่อนกลิ่น
โดยใช้ไขมันประเภทน้ำมันหมูเกลี่ยลงบนถาดไม้
แล้วนำดอกไม้มาเกลี่ยทับเป็นชั้นบาง
ๆจนเต็มถาด ตั้งทิ้งไว้ 24
ชม.แล้วเปลี่ยนดอกไม้ชุดใหม่ ทำซ้ำประมาณ 7-10
ครั้ง ไขมันก็จะดูดซับสารหอมไว้ หลังจากนั้น
ละลายสารหอมออกจากไขมันโดยใช้เอทานอล
แล้วนำไประเหยเอทานอล ออก
ก็จะได้น้ำมันหอมระเหยออกมา
4.วิธีการบีบ
วิธีนี้มักใช้กับเปลือกผลไม้ตระกูลส้ม เช่น
ส้ม มะนาว มะกรูด
น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะมีคุณภาพดี และราคาแพง
|